รีวิว Samyang AF 35mm F1.4 ตะลุย LEH LADAKH โดย Pookie Foto

รีวิวเลนส์ Samyang AF 35mm F1.4 ตะลุย LEH LADAKH โดย Pookie Foto

“JULLEY THE END of  WINTER”@LEH LADAKH 2018 ทริปหนีร้อนไปพึ่งหนาว สถานที่ในฝันของคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพและการเดินทาง ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่และงดงามที่ต้องเดินทางไปเห็นและสัมผัสดินแดนแห่งขุนเขาด้วยตาตัวเอง ทริปนี้เราเดินทางกันทั้งหมด 9 ชีวิตมารวมตัวกันเฉพาะกิจ บางคนรู้จักกัน บางคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย แต่เรามีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันใน Facebook Messenger เกี่ยวกับแผนการเดินทางจนทำให้พวกเราสนิทกันก่อนล่วงหน้าเป็นเวลาประมาณ 5 เดือน

กำหนดการเดินทางระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2561 ซึ่งเป็นช่วงหยุดยาวสงกรานต์จึงไม่ต้องลางาน ขณะนั้นที่ Leh Ladakh เป็นช่วงปลายฤดูหนาวโดยหัวหน้าทริปได้ประสานงานกับ Agency ที่เลห์เกี่ยวกับการเดินทางตลอดทั้งทริปไว้แล้วทั้งหมด ส่วนพวกเราแค่จองตั๋วและเตรียมเงินติดตัวไปอีกนิดหน่อยเท่านั้น ทริปนี้เป็นทริปส่วนตัว เที่ยวชิวชิว อยากแวะถ่ายถ่ายภาพจุดไหนเมื่อไร นานแค่ไหนก็ได้ นอกจากนี้ผมมีโอกาสได้นำเลนส์ Samyang AF35mm F1.4 FE ไปลองุถ่ายภาพเที่ยวตลอดทั้ง 7 วัน ปกติผมชอบถ่ายวิวช่วงระยะ 16-35mm โดยใช้ระยะ 16mm บ่อยมาก เพราะชอบวิวกว้างๆ  ปัจจุบันใช้กล้อง Sony A7Rii และมีเลนส์อยู่เพียง 3 ตัว แต่เป็นเลนส์ Canon ทั้งหมด คือ EF16-35mm f2.8L II USM, EF50mm F1.4 และ EF70-200mm F2.8L USM โดยใช้งานผ่าน Adapter Metabones Mark4 ทุกตัว ซึ่งเท่าที่มีอยู่เวลานี้แม้จะไม่ครบช่วงแต่ก็เพียงพอต่อ Lifestyle การถ่ายภาพในชีวิตประจำวันของตัวเองแล้ว การได้ลองใช้เลนส์ใหม่ๆ ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีที่มีอะไรใหม่ๆ เข้ามาในชีวิตที่อยากจากมาเล่าสู่กันฟัง จะดีหรือไม่ดีผู้ครอบครองมันคงเป็นผู้ตอบคำถามได้ดีที่สุดว่ามันตรงใจกับ Lifestyle ของเราหรือเปล่าเพราะผมเองก็เป็นผู้ใช้งานแบบบุคคลทั่วไปธรรมดาคนหนึ่ง

ภาพทั้งหมดที่ปรากฏอยู่ในกระทู้นี้จะเยอะหน่อยนะครับ อยากให้เห็นบรรยากาศการท่องเที่ยวและความสวยงามยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ โดยภาพทั้งหมดถูกถ่ายด้วยกล้อง SonyA7Rii กับเลนส์ SAMYANG AF35mm F1.4 FE ผมพยายามจะเขียนเกี่ยวกับการใช้งานแบบบ้านๆ ไว้เผื่อเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยเท่าที่ตัวเองพอจะถ่ายทอดออกมาได้เพราะปกติก็ไม่สันทัดเรื่องอุปกรณ์สักเท่าไหร่ ถนัดถ่ายภาพมากกว่า ภาพทั้งหมดผ่านการตกแต่งด้วยโปรแกรมแต่งภาพแล้วทุกภาพ ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/1600 sec; f/8; ISO 100
ภาพมุมสูงถ่ายจากบนเครื่องบิน ก่อนเครื่องบินจะลงจอดที่สนามบิน Leh

ตอนจองตั๋วเครื่องบิน เพื่อนได้แนะนำให้จองที่นั่งติดหน้าต่างเพราะสามารถมองเห็นวิวสุดอลังการก่อนถึงสนามบินเลห์จากบนเครื่องบินได้ โดยเที่ยวบินขาไปให้จองที่นั่งฝั่งด้านซ้าย เที่ยวบินขากลับให้จองที่นั่งฝั่งด้านขวา ในภาพนี้เป็นเที่ยวบินขาไป ผมจองที่นั่ง 9A แต่โชคไม่เข้าข้างเพราะแถวที่ 9 เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นเครื่องยนต์อันใหญ่โตมันทำให้องค์ประกอบภาพเสียไปซะอย่างนั้น ตอนแรกพยายามจะถ่ายภาพกลับมาให้ได้ แต่ก็จนปัญญาที่จะได้ภาพดีดีกลับมา กลายเป็นได้นั่งมองวิวตาปริบๆ แทนการถ่ายภาพ เมื่อเห็นว่าไม่ได้ภาพดีดีกลับมาแน่ จึงส่งกล้องให้น้องที่นั่งแถว 7A เป็นผู้บันทึกภาพให้แทน ต้องขอบคุณน้องรุ้งและขอให้เครดิตการถ่ายภาพจากเครื่องบินไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

ปกติเวลาขึ้นเครื่องบินผมจะใช้เลนส์ระยะ 16-35mm. อยู่บ่อยๆ แต่ครั้งนี้ลองใช้เลนส์ SAMYANG AF35mm F1.4 FE ภาพที่ได้มีระยะเต็มตาเต็มจอพอดี แต่ก็ต้องพยายามจัดองค์ประกอบให้ได้ภาพแน่นเต็มจอ ช่วงใกล้ถึงสนามบินเลห์จะบินไม่สูงจนเกินไป ทำให้ผู้โดยสารได้สัมผัสความงามของขุนเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะอย่างเต็มตา แต่ถ้าจะให้ได้ภาพที่ดีกว่านี้ควรพกเลนส์นอร์มอลซูมระยะ 24-70mm. ไว้อีกสักตัวจะดีมาก

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/8000 sec; f/1.4; ISO 100
ลานอเนกประสงค์ที่ Leh Market

พอเครื่องลงได้สักพัก ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองออกมาจากสนามบิน คนขับรถที่ทางเอเจนซี่จัดเตรียมไว้ให้ก็มารับและพาไปยังโรงแรม Zeejeed Palace ที่อยู่ห่างจากสนามบินไปไม่ไกล มาถึงก็เก็บของแล้วนั่งพักสักครู่ก่อนจะออกมาหาอาหารมื้อเที่ยงตอนบ่ายสามกินกันที่ Leh Market สภาพของเมืองเต็มไปด้วยฝุ่น ถนนเป็นยางมะตอยบ้าง ดินลูกรังบ้างและมีขนาดไม่กว้างมากนัก แค่พอให้รถสวนทางกันได้ แต่ถึงถนนจะแคบแต่คนขับรถที่นี่สกิลเทพใช่ย่อยเลยล่ะ

ตอนที่ได้เลนส์ SAMYANG AF35mm F1.4 FE ตัวนี้มาก็นึกแนวทางการถ่ายภาพไว้ละว่าน่าจะหมาะกับภาพคนที่มีวิวร่วมอยู่ด้วยเพราะเป็นเลนส์ไวด์ระยะกลาง ไม่แคบและไม่กว้างเกินไปทำให้เดินถ่ายภาพชิวชิวตามถนนได้อย่างสบายอย่างเช่นในภาพนี้ ตอนแรกผมก็ยืนห่างจากพี่คนนี้พอสมควร แต่เนื่องจากเลนส์เป็นมุมกว้างถ้าห่างจากตัวแบบมากไปตัวแบบก็จะเล็กเกินไปจึงค่อยๆ เขยิบเข้าไปใกล้พี่เค้าทีละนิด จนกระทั่งใกล้ประมาณสักเมตรกว่าจนเกือบจะไปสิงร่างพี่เค้าได้จึงเริ่มถ่ายภาพ พี่เค้าก็รู้ตัวแหละ แต่เค้าก็ยอมให้ถ่ายภาพนี้มา โดยปรับรูรับแสงแบบบ้าพลังนิดหน่อย เปิด F กว้างสุดที่เลนส์ให้มา คือ F1.4 ผลคือพี่สุดหล่อเค้าลอยเด่นออกมาจากฉากหลังเลยทีเดียว

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/250 sec; f/6.3; ISO 400
ร้านผลไม้ใน Leh Market

SonyA7Rii มีน้ำหนัก 582 กรัม SAMYANG AF35mm F1.4 FE มีน้ำหนัก 705 กรัม (รวมฮู๊ดและฝาปิดเลนส์) น้ำหนักรวม 1.287 กิโลกรัม ครั้งแรกที่ได้สัมผัสมันแน่นมือและมีน้ำหนักพอสมควร ไม่ได้เบาหวิวแบบโหวงเหวงและก็ไม่ได้หนักเกินไป สมดุลย์กำลังดีเวลาใช้งาน เนื่องจากเป็นเลนส์ฟิกซ์ทำให้สนุกในการจัดองค์ประกอบ ต้องเดินเข้าเดินออกขยับหามุมตลอด เลนส์ SAMYANG AF35mm F1.4 FE ตัวนี้เป็นเลนส์ Auto Focus ที่รองรับระบบการทำงานของกล้อง Sony ทำให้ถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น แตะปุ่มชัตเตอร์เบาๆ ก็โฟกัส แต่ถึงแม้ว่ากล้องจะมีเมนูให้เลือกระบบโฟกัสได้หลายแบบ จะมีจุดโฟกัสมากแค่ไหน แต่ผมก็ถนัดเลือกใช้แบบ Flexible spot โดยเลือกขนาดจุดโฟกัสเล็กที่สุดและตั้งไว้ที่ตำแหน่งกลางอยู่เสมอ เวลาถ่ายภาพก็แค่โฟกัสวัตถุเอาไว้ จากนั้นแตะชัตเตอร์ค้างไว้ครึ่งหนึ่งแล้วจึงจัดองค์ประกอบ เมื่อทุกอย่างโอเคแล้วถึงลั่นชัตเตอร์ถ่ายภาพ วิธีนี้บ่งบอกถึงอายุนิดหน่อยเพราะติดมาตั้งแต่สมัยใช้กล้องฟิล์ม ภาพนี้ผมพยายามจะถ่ายพี่คนที่กำลังเอี้ยวตัวมามองกล้อง ยืนตื้อถ่ายไป 3 ภาพ กว่าพี่แกจะชะโงกหน้าออกมามองกล้อง พอถ่ายภาพแล้วก็โบกมือทักทายและยิ้มให้พี่เค้าก่อนจะเดินจากไปแบบเงียบๆ

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/160 sec; f/11; ISO 100 (ต่อPanorama จากภาพแนวตั้ง4 ใบ)
Leh City, ถ่ายจากสันติสถูป : เจดีย์แห่งสันติภาพโลก (Shanti Stupa)

ช่วงเย็นของวันแรกในการเดินทางยังใช้เวลาอยู่ในเมือง Leh เพื่อปรับสภาพร่างกายให้ชินก่อน เย็นวันนี้ผมขึ้นมารอถ่ายแสงเย็นที่ Shanti Stupa โชคดีมากที่มาทันช่วงก่อน Golden hour ทำให้ได้เห็นแสงอุ่นๆเป็นหย่อมแบบนี้ แสงกำลังไล่ลดระดับอย่างรวดเร็วเพราะพระอาทิตย์กำลังเคลื่อนต่ำลงเรื่อยๆ เนื่องจากตำแหน่งนี้อยู่ที่สูง มองเห็นสภาพพื้นที่บริเวณนี้อย่างกว้างสุดตา เลนส์ SAMYANG AF35mm F1.4 FE ตัวนี้จึงเก็บภาพด้านกว้างได้ไม่หมด ทำให้ต้องเปลี่ยนวิธีถ่ายภาพเป็นการถ่ายภาพแนวตั้งจำนวน 4 ภาพ แล้วนำภาพทั้งหมดมาต่อพาโนรามาในโปรแกรมแต่งภาพแทน

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 25 sec; f/11; ISO 100
Leh City, ถ่ายจากสันติสถูป : เจดีย์แห่งสันติภาพโลก (Shanti Stupa)

จุดชมวิวนี้อยู่บน Shanti Stupa ตั้งอยู่บนภูเขา บนนี้เป็นที่โล่งไม่มีอะไรบังทำให้มองเห็นวิวเมืองได้อย่างชัดเจน เมื่อพระอาทิตย์ลับฟ้าไปแล้วอากาศก็ยิ่งหนาว ประกอบกับลมที่พัดแรงตลอดเวลาทำให้ทวีความหนาวจนมิอชาไปหมด ขนาดว่าพกถุงร้อนซุกกระเป๋าเสื้อกันหนาวก็ยังเอาไม่อยู่เพราะผมเป็นคนขี้หนาวและขาดความอบอุ่นอย่างมาก

วิวที่กว้างและจุดถ่ายภาพอยู่ในระยะห่างพอประมาณแบบนี้ ทำให้ระยะของเลนส์  SAMYANG AF35mm F1.4 FE ตัวนี้เก็บองค์ประกอบภาพได้แน่นกำลังดี แต่ถ้าต้องการจะเก็บกว้างกว่านี้ก็ต้องแก้ปัญหาโดยการถ่ายหลายภาพมาต่อพาโนรามาก็สวยไปอีกแบบ ภายนอกของเลนส์ตัวนี้ไม่มีปุ่มสำหรับปรับเลือกระบบโฟกัส Auto หรือ Manual ตอนแรกก็งงนิดหน่อยว่าปรับตรงไหนหว่าเพราะเคยใช้แต่เลนส์ของ Canon ที่มันมีปุ่มปรับเลือกที่ตัวเลนส์ได้เลย ก็งงสักพักถึงนึกขึ้นได้ว่าต้องไปเลือกระบบการโฟกัสที่เมนูคำสั่งภายในกล้อง (เรานี่บ้านนอกชะมัด) ผมถ่ายภาพจนกระทั่งฟ้ามืดแต่บ้านเรือนก็ไม่ได้เปิดไฟกันทุกหลังเพราะที่นี่ส่วนใหญ่ยังใช้การปั่นไฟใช้เองในครัวเรือน ก็เลยเก็บกล้องแล้วกลับไปหามื้อค่ำกินที่โรงแรมดีกว่า

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/500 sec; f/9; ISO 80
สันติสถูป : เจดีย์แห่งสันติภาพโลก (Shanti Stupa)

เช้าวันใหม่ของการเดินทาง ตื่นตั้งแต่ตีห้าแล้วเดินเท้าจากที่พักขึ้นเขามาถ่ายแสงเช้า ตอนแรกก็อยากจะให้คนขับรถมารับนะ แต่เค้าบอกว่าต้องการให้เราพักผ่อนร่างกายก่อน แต่ทำไงได้มาออกทริปกับสายแลนด์ตะเข็บบ้าพลังก็เลยต้องบู๊อยู่ตลอดเวลา อุปสรรคไม่ใช่เรื่องเหนื่อย แต่เป็นเรื่องหนาว ขนาดว่าใส่กุงเกง Block tech แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรสักเท่าไหร่เวลาหนาว แต่พอแดดออกเท่านั้นแหละเหงื่อมาเต็มจนเปียก มุมนี้ต้องเดินขึ้นเขามานิดหน่อย ไม่สูงมากและไม่เหนื่อยมาก พอให้มีเหงื่อซึมไว้คลายหนาวได้บ้าง เจดีย์แห่งนี้อยู่ที่ระดับความสูง 3,610 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล แนวเทือกเขาที่มีหิมะปกคลุมอยู่นั่นคือแนวเทือกเขา Stok Range ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอินเดีย เรียกว่า Hemis National Park

ภาพนี้โฟกัสที่ตัวสถูปเจดีย์สีขาว ปล่อยฉากหน้าของธงมนต์ให้หลุดโฟกัส เลนส์ SAMYANG AF35mm F1.4 FE ตัวนี้เก็บรายละเอียดภาพได้ดี จากสเปคและการออกแบบชิ้นเลนส์เคลมไว้ว่าชัดตั้งแต่กลางภาพยันขอบภาพซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างที่เค้าว่าไว้

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/100 sec; f/11; ISO 100
เส้นทางระหว่างเดินขึ้น Shanti Stupa

เราเดินขึ้นเขาฝึกกำลังขา แต่พี่คนนี้เค้าใช้การปั่นจักรยานฝึกกำลังขาเหมือนกัน อิจฉาสุดๆ จากในภาพนี้แสงมาจากทางขวาสาดเข้ามาทางซ้ายปริ่มยอดเขาอยู่ เลยเห็นแสงเป็นลำสวยเชียว เส้นทางที่เดินขึ้นมาก็ไกลพอสมควร เดินไปพักไป แวะถ่ายภาพไปก็ไม่เหนื่อยมาก แต่การเดินขึ้นเขาโดยไม่พกน้ำมานี่สิ ทำได้ไง สัมผัสแรกของการมองเห็นและได้เห็นทุกกวันในชีวิตประจำวันก็คือภูเขา มองไปทางไหนก็เจอแต่ภูเขาแบบเลี่ยงไม่ได้เลย

ก่อนที่พี่คนนี้จะปั่นจักรยานขึ้นมาให้ถ่ายภาพ ผมตั้งกล้องถ่ายตัวเองไว้โดยการโฟกัสแบบแมนนวล มาร์คจุดโฟกัสคร่าวๆ เอาไว้ที่พื้น จากนั้นเดินไปยืนแล้วกดรีโมทถ่ายภาพ ก็พยายามถ่ายภาพตัวเองอยู่หลายภาพจนกระทั่งเห็นพี่คนนี้ ตอนนั้นไม่รู้ทำไงดีเพราะพี่เค้าเคลื่อนเข้ามาเร็ว จะปรับเปลี่ยนระบบโฟกัสก็ไม่ทันแล้วเลยยกกล้องออกมารอถ่ายภาพตอนที่พี่เค้าปั่นมาในตำแหน่งเดียวกับที่ผมยืนตอนแรกแล้วค่อยกดชัตเตอร์ ก็โอเคนะ ยังได้ภาพที่ชัดระดับหนึ่งเพราะตั้งรูรับแสงแคบจนครอบคลุมระยะชัดแล้ว

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/2500 sec; f/1.4; ISO 100
Zankar Gompa

ระยะ 35มม.ทำให้เลนส์ตัวนี้เหมาะสำหรับพกไว้ใช้ถ่ายภาพทั่วไปได้ดี ไม่ว่าจะเป็นภาพแลนด์สเคป ภาพพรอตเทต ภาพสตรีทตามท้องถนน อย่างภาพนี้ลองถ่ายภาพน้องในทริปแบบเต็มตัว ห่างจากตัวแบบนิดหน่อย จัดองค์ประกอบภาพให้เหลือพื้นที่รอบๆ ตัวแบบนิดหน่อย สัดส่วนของตัวแบบก็ไม่ได้บิดเบี้ยวนักทำให้ได้ภาพกำลังสวยเลย

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/200 sec; f/6.3; ISO 200
Leh market

ลองโฟกัสวัตถุที่สะท้อนแสงอย่างเช่นกระจก  โดยโฟกัสเข้าไปที่ตาของคนที่กำลังทำงานอยู๋หลังกระจก แม้จะโฟกัสเข้า แต่ภาพก็ไม่ได้คมชัดเพราะยังสูญเสียไปการถ่ายภาพผ่านกระจก ภาพนี้พยายามเล่นมุมมองนิดหน่อย ถึงแม้คนที่กำลังงานอยู๋จะไม่ได้มองกล้อง แต่สายตาหลายคู่ก็กำลังมองเข้ามา รู้สึกเกร็งๆ อยู่เหมือนกัน ดีนะใส่แว่นดำเลยพอหลบสายตาได้บ้าง

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/640 sec; f/11; ISO 200
Leh market

 

ช่วงที่เดินถ่ายภาพอยู่ในตลาดเป็นช่วงหลังเที่ยงแล้ว แสงแรงและแข็งมาก เจอสภาพแบบนี้ปรับรูรับแสงแคบๆ เดินถ่ายภาพได้สบาย โฟกัสเข้าก็ชัดเป๊ะหายห่วง

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/640 sec; f/11; ISO 200
Leh market

ช่วงที่เดินถ่ายภาพอยู่ในตลาดเป็นช่วงหลังเที่ยงแล้ว แสงแรงและแข็งมาก เจอสภาพแบบนี้ปรับรูรับแสงแคบๆ เดินถ่ายภาพได้สบาย โฟกัสเข้าก็ชัดเป๊ะหายห่วง

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/5000 sec; f/2.8; ISO 100
Leh market

ภาพนี้ยอมลงทุนเดินหน้ามึนเข้าไปขอออเจ้าสาว Ladakhi อยากถ่ายภาพเพราะสีสันของเครื่องแต่งกายที่สะดุดตามาแต่ไกล ด้วยสภาพแสงในธรรมชาติที่มีมากมายแบบนี้ ไม่ยากเลยที่เลนส์จะสามารถเก็บรายละเอียดและสีสันได้จี๊ดจ๊าดเหมือนตาเห็นตั้งแต่หลังกล้องแบบนี้

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/8000 sec; f/1.4; ISO 200
Leh market

ภาพนี้ยังบ้าพลังใช้รูรับแสงกว้างสุดเหมือนเดิม เวลาถ่ายภาพผมลืมปรับ ISO หลายครั้ง บางทีตั้งอะไรไว้ก็ถ่ายภาพทันทีทำให้ภาพนี้สปีดชัตเตอร์ปาไปเต็มสปีดที่กล้องสามารถให้ได้เลย ตอนถ่ายแสงรอบๆ ป้าคนนี้แรงมาก โดยเฉพาะตามพื้น ทำให้แสงสะท้อนขึ้นมาทำให้หน้าของป้าได้รับแสงนวลสว่างสวยงามไปด้วย คนที่อยู่ฉากหลังเบลอก็พลอยมีโบเก้เกิดขึ้นเล็กน้อย ปกติเลนส์ตัวนี้จะให้โบเก้ไม่กลมสนิทโดยจะออกรีนิดๆ

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/8000 sec; f/1.4; ISO 100
Leh market

ชาวลาดักห์ใจดีและยินดีที่จะให้เราถ่ายภาพเพียงแค่ยกกล้องแล้วยิ้มให้พวกเขา ถ้าเค้าตอบสนองด้วยสีหน้าเป็นมิตรเราก็เริ่มถ่ายภาพได้ การเดินถ่ายภาพสตรีทในตลาดจะได้เจอกับสภาพแสงที่หลากหลาย อย่างภาพสมาคมคุณลุงมาดเท่ห์ภาพนี้ตัวแบบอยู่ทั้งในเงา ทั้งรับครึ่งแสงครึ่งเงาและรับแสงเต็มๆ เลนส์สมัยใหม่กับกล้องความละเอียดสูงแทบไม่มีอุปสรรคในการเก็บรายละเอียดเลย

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/160 sec; f/5; ISO 100
Leh Market

บางทีเราก็อาจจะเจอกับสภาพคนที่นิ่งแบบนี้ ก็ต้องเลือกและประเมินสถานการณ์ว่าจะถ่ายต่อหรือจะหยุดดี ภาพนี้เรียกว่านั่งประจันหน้ากันเลย

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/400 sec; f/11; ISO 100
พระราชวังเลห์ (Leh Palace)

ยังวนเวียนเก็บภาพตามสถานที่ท่องเที่ยวภายในตัวเมืองเลห์ ภาพนี้ถ่ายที่พระราชวังเลห์ เล่นกับความเปรียบต่างของแสง กว่าจะเดินขึ้นมาถึงบนนี้ต้องเดินเข้าผิดห้องหลงไปหลงมาก็หลายรอบเพราะเค้าไม่มีลูกศรบอกทาง และในช่วงกลางวันต้องปรับสภาพร่างกายให้เคยชิน ถ้าอยู่ในร่มเงาก็จะหนาว เวลาออกแดดก็จะร้อน และแดดที่นี่จัดมาก ตากนานๆ อาจทำให้ผิวไหม้กันได้เลย เพราะฉะนั้นคุณผู้หญิงควรทาครีมกันแดดและโลชั่นกันผิวแห้งด้วยนะครับ

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/50 sec; f/11; ISO 100
Leh city ถ่ายจาก Namgyal Tsemo Gompa

ภารกิจสุดท้ายของวันนี้ ไปรอถ่ายแสงเย็นของเมืองเลห์ที่ Namgyal Tsemo Gompa เวลาขึ้นมาดูวิวสูงๆ แบบนี้จะไม่มีอะไรมาบดบังวิวเลยเพราะต้นไม้ที่นี่น้อยมาก ทำให้สามารถมองเห็นวิวได้แบบเต็มตา ต้ังแต่หันมาถ่ายภาพวิวแบบจริงจังก็มักจะใช้ขาตั้งถ่ายภาพอยู่เสมอ และใช้ระบบโฟกัสแบบแมนนวล เลนส์  SAMYANG AF35mm F1.4 FE ช่วยให้การหาโฟกัสเวลาถ่ายแมนนวลง่ายขึ้น เพียงแค่หมุนแหวนโฟกัสที่กระบอกเลนส์ภาพที่จอก็จะซูมขึ้นมาให้ใหญ่ขึ้น เราสามารถหมุนหาโฟกัสหรือระยะอินฟินิตี้เพื่อถ่ายภาพให้มีความชัดครอบคลุมตั้งแต่ใกล้จนถึงไกลสุดได้ง่ายๆ

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 10 sec; f/1.4; ISO 1600
ระเบียงห้องพักที่ Zeejeed palace

การถ่ายภาพในวันใหม่เริ่มต้นที่การตื่นขึ้นมาตอนตีหนึ่งเพื่อมาถ่ายทางช้างเผือกบริเวณระเบียงห้องพักของโรงแรม ช่างเป็นการตื่นนอนออกมาถ่ายภาพที่ทรมานตัวเองมาก ปกติกลางวันก็หนาวอยู่แล้ว กลางคืนที่นี่อุณหภูมิติดลบ ลมก็ยังแรงไม่ต่างกับกลางวัน ทั้งกล้อง เลนส์ ขาตั้งกล้อง วัสดุส่วนใหญ่เป็นโลหะทั้งนั้น จะหยิบจับอะไรเย็นมือสุดๆ ถ่ายภาพไปเขย่าถุงร้อนไปด้วย เพลินเลย สภาพท้องฟ้าคืนนี้มืดสนิท เห็นดาวชัดเจน ในความมืดสนิทนี่เอง การหมุนหาตำแหน่งอินฟินิตี้ของเลนส์ SAMYANG AF35mm F1.4 FE ทำได้ง่ายดายจึงทำให้ฉากหน้าคมชัด เลนส์ที่ไวแสงช่วยให้ถ่ายทางช้างเผือกได้ง่าย แต่ทางยาวโฟกัส 35 มม.ก็ทำให้ได้ภาพกว้างไม่เต็มตานักเพราะช้างเผือกที่นี่ตัวอวบอ้วนโตมาก การถ่ายภาพที่รูรับแสง f1.4 ยังมีขอบมืด (Vignette) ปรากฏให้เห็นชัดเจน

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/1000 sec; f/11; ISO 100
หมู่บ้านใกล้ๆ Lamayuru Gompa

ตอนมายืนอยู่ตำแหน่งนี้เพื่อถ่ายภาพ ผมลองถ่ายภาพจากเลนส์ 2 ตัวที่ระยะต่างกัน ผลปราฏกว่าเลนส์ระยะ 35 มม.ได้ภาพที่ดีที่สุดตามภาพนี้ ส่วนเลนส์ 16-35 มม.ที่ถ่ายไว้ด้วยระยะ 20 มม.ได้ภาพกว้างและภาพบิดเกินไป มุมนี้เส้นถนนโค้งตัวเอสน่าสนใจมาก ทำให้ภาพดูมีความเคลื่อนไหวและนุ่มนวลขึ้น

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/500 sec; f/11; ISO 100
Sangam point

บริเวณนี้เป็นจุดชมวิวแม่น้ำสองสี เกิดจากการบรรจบกันของแม่น้ำสองสายคือ แม่น้ำ Indus และ Zanskar ทำให้ปรากฏเป็นสีที่ตัดกัน ตั้งอยู่ระหว่างทางจากตัวเมือง Leh ไป Lamayura ในช่วงเช้ามีโอกาสแวะมารอบนึงแล้วพบว่าเงาบังวิวแม่น้ำมากเกินไปเพราะพระอาทิตย์ยังขึ้นไม่สูง จึงแวะกลับมาอีกรอบหลังจากไปเที่ยว Lamayaru Gompa แล้ว คราวนี้มุมของแสงตกกระทบกำลังสวยเลยเห็นสีของแม่น้ำเป็นสีเทอร์ควอยส์อย่างชัดเจน

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/320 sec; f/8; ISO 100
เด็กน้อยที่หมู่บ้านใกล้ Lamayuru Gompa

ภารกิจหลอกเด็กคืองานของเรา เห็นปุ๊บต้องรีบแถเข้ามาหา ภาพนี้ลองถ่ายมุมสูง ชูกล้องขึ้นแล้วกดหน้าเลนส์ลงมา จัดองค์ประกอบแบบกะมั่วๆ ไม่ได้ตั้งใจเท่าไร แตะโฟกัสครั้งนึงแล้วกดชัตเตอร์ แต่โชคดีที่ฟลุ๊คโฟกัสเข้าพอดี

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/400 sec; f/6.3; ISO 100
เด็กน้อยที่หมู่บ้านใกล้ Lamayuru Gompa

เด็กน้อยแก้มยุ้ยคนนี้น่าจะเป็นน้องสาวของพ่อรูปหล่อที่อยู่ด้านหลัง น้องเค้าไม่พูดไม่จา สงสัยไม่คุ้นกับคนหน้าแปลก แต่ก็มีบางจังหวะที่แอบยิ้มให้กล้องบ้าง สีหน้าแววตาน่ารักสุดๆ เลยครับ ค่าตัวของสองหนูน้อยรับไปคนละ 40 รูปี

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/400 sec; f/11; ISO 80
Hunder Sand Dunes, Nubra Valley

อีกสถานที่หนึ่งที่สวยมากในทริป Leh Ladakh ที่นี่ผมใช้เลนส์เทเลเยอะหน่อยเพราะ Subject อยู่ไกล แต่ก็ยังพอได้วิวที่ถ่ายด้วยเลนส์  SAMYANG AF35mm F1.4 FE อยู่หลายสิบภาพ เช่นบริเวณใกล้ๆ ลานจอดรถที่มีภูเขาลูกโตเป็นฉากหลังในรูปนี้

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/1250 sec; f/11; ISO 200
Hunder Sand Dunes, Nubra Valley

ภาพก่อนหน้าอาจยังไม่เห็นความใหญ่โตของภูเขามากนัก แต่พอเปรียบเทียบกับคนทำให้เห็นชัดเจนมากขึ้น

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/400 sec; f/11; ISO 80
Hunder Sand Dunes, Nubra Valley

 

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/320 sec; f/11; ISO 100
Camel Trekking at Hunder Sand Dunes, Nubra Valley

กิจกรรมที่น่าสนใจของการมาเยือนทะเลทรายแห่งนี้คือการถ่ายภาพนักท่องเที่ยวขี่อูฐ เวลาอูฐเดินผ่านทะเลทรายเข้าไปในหุบเขาใช้เลนส์เทเลส่องจะสวยมาก ถ้าอยากให้ Subject มีขนาดกำลังดีเมื่อเทียบกัยที่ว่างในภาพก็เดินเข้าไปใกล้ๆก็ถ่ายด้วยเลนส์ SAMYANG AF35mm F1.4 FE ภาพนี้ถ่ายที่จุดเริ่มต้นเดิน ซึ่งแถวนี้จะมีอูฐนอนรอนักท่องเที่ยวอยู่เต็มไปหมด เทือกเขาไกลๆ ที่เห็นในภาพคือ Karakoram Range

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/1250 sec; f/7.1; ISO 100
Diskit Gompa

สถานที่แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากทะเลทรายมากนัก เป็นที่ตั้งของวัดเก่าแก่และรูปปั้นพระศรีอารยเมตไตรย์ขนาดใหญ่ ตอนมาถึงที่นี่เป็นช่วงก่อนเที่ยง แดดแรงและแสงแข็งมาก แสงส่องมาจากด้านบน แต่ยังดีที่ยังพอได้แสงเงาสวยๆ กลับมา ภาพนี้ถ่ายจากบริเวณรูปปั้นองค์พระ ทำให้ได้ระยะที่เห็นทั้งวัดและสภาพภูมิประเทศไปพร้อมๆ กัน

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/320 sec; f/13; ISO 200
ระหว่างการเดินทางออกจาก Diskit Gompa

ตลอดการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวนอกตัวเมืองเลห์จะต้องนั่งรถข้ามเขาลูกแล้วลูกเล่า ไต่ระดับสูงขึ้นหลายพันเมตรไปจนถึงระดับที่สูงติดอันดับโลกคือประมาณ 5,ุ600 เมตรอย่าง Khardung La ซึ่งเป็นเส้นทางรถยนต์ที่อยู่สูงที่สุดในโลก ในการนั่งรถนี่เองถ้าใครได้นั่งริมหน้าต่างก็จะมีโอกาสได้พบความตื่นเต้นของการมองขอบถนนที่อาจจะเรียกว่าขอบเหวในบ้างเส้นทาง ทั้งครั้งที่ขับรถผ่านโค้งคนขับจะต้องบีนแตรเพื่อให้รถที่อาจจะสวนทางมารับรู้ แต่บอกได้เลยว่านอกจากความตื่นเต้นเหล่านี้เราจะได้พบกับภาพที่สวยงามของภูเขารูปแบบต่างๆ ไปตลอดการเดินทาง ภาพนี้ผมถ่ายภาพจากเบาะหลัง ชูกล้องขึ้นเหนือหลังคารถแล้วจัดองค์ประกอบแบบกะมั่วๆ ถ่ายบรรยากาศระหว่างการเดินทางกลับมา

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/8000 sec; f/2; ISO 100
ระหว่างทางไป Pangong lake

เค้าว่ากันว่าจะถ่ายสาวให้สวยก็ให้เลือกแบบสวยๆ อันนี้คงจะจริง แฮ่ๆ เลยถ่ายภาพน้องในทริปซะเลย น้องรุ้งคนนี้ไงที่ถ่ายภาพจากบนเครื่องบินตามที่อธิบายไว้ในภาพแรกๆ ของกระทู้ ปกติเลนส์จะคมชัดที่ช่วงประมาณ 2-3 stop ของรูรับแสงกว้างสุด แต่ภาพนี้ลองแค่ F2 ก็เก็บละเอียดผิว รูขุมขนได้ชัดแล้ว เลยไม่อยากปรับรูรับแสงแคบให้ทำร้ายจิดใจน้องเค้ามากไปกว่านี้

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/8000 sec; f/2; ISO 80
ระหว่างทางไป Pangong lake

ฉากหน้าที่เบลอแบบนี้ทำได้ง่ายๆ เพียงย่อตัววางกล้องให้อยู่ระดับเหนือพื้นดินนิดหน่อย ฉากหน้าก็จะเบลอตามธรรมชาติ ยิ่งแบบอยู่ไกล ก็จะยิ่งเบลอมากขึ้นแบบนี้ ในภาพนี้ก็เป็นน้องในทริปอีกคนหนึ่งซึ่งน้องเค้าก็เขียนกระทู้เที่ยว Leh Ladakh เอาไว้เหมือนกัน โดยใช้ชื่อ Log in ว่า chimoleye

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/80 sec; f/11; ISO 100
ระหว่างทางไป Pangong lake

ฉากหน้าที่เบลอแบบนี้ทำได้ง่ายๆ เพียงย่อตัววางกล้องให้อยู่ระดับเหนือพื้นดินนิดหน่อย ฉากหน้าก็จะเบลอตามธรรมชาติ ยิ่งแบบอยู่ไกล ก็จะยิ่งเบลอมากขึ้นแบบนี้ ในภาพนี้ก็เป็นน้องในทริปอีกคนหนึ่งซึ่งน้องเค้าก็เขียนกระทู้เที่ยว Leh Ladakh เอาไว้เหมือนกัน

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/80 sec; f/11; ISO 100
ระหว่างทางไป Pangong lake

การเดินทางจาก Nubra valley มายัง Pangong lake ใช้เวลาทั้งวัน คนขับรถของเราขับจนเพลีย บางช่วงขับรถช้าอย่างน่าใจหาย ปกติพี่เค้าซิ่งมาก  กลัวเค้าจะหลับใจเพราะทุกวันที่ร่วมทางกันต้องขับรถเยอะมาก ถึงขนาดต้องเอ่ยปากถามบ่อยๆ และขอเป็นคนขับรถให้ซะเอง แต่พี่เค้าก็บอกไหวตลอด สาเหตุหนึ่งของการมาเที่ยวเลห์ในช่วงปลายฤดูหนาวนอกจากจะมีวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์นั่นก็คืออยากเห็นหิมะ ผมยังคงตื่นเต้นเสมอเมื่อได้เห็นหิมะ แม้จะไม่ชอบอากาศหนาวเลยก็ตาม

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/160 sec; f/8; ISO 320
ทะเลทรายก่อนถึง Pangong lake

หลังจากเดินทางกันมาอย่างยาวนาน เราคิดแล้วว่าเย็นนี้ไปถ่ายแสงเย็นที่ทะเลสาป Pangong ไม่ทันแน่นอน จึงแวะถ่ายภาพระหว่างทางแทน เพราะเรามั่นใจว่าระหว่างทางมีความสวยงามไม่แพ้จุดหมายปลายทาง ตอนนี้แสงเริ่มน้อยลงแล้ว ต้องเพิ่ม ISO เพราะไม่ได้ใช้ขาตั้งกล้อง พอรถจอดก็ทำตัวเป็นชะโงกทัวร์ วิ่งลงไปแช๊ะๆๆๆ แล้วรีบวิ่งขึ้นรถเพราะอากาศตอนนี้หนาวมากกกกกก ลงไปแป๊บเดียวมือนิ้วแข็งไปหมด

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/10 sec; f/11; ISO 100
ทะเลทรายก่อนถึง Pangong lake

พอนั่งรถมาอีกสักพักก็แวะจอดถ่ายภาพกันอีก คราวนี้ยอมใช้ขาตั้งกล้องเพราะแสงเริ่มน้อยมากแล้ว ยอมลงมาทนหนาวเพราะเดี๋ยวอีกสักพักก็จะได้นอนพักละ พื้นที่สีขาวที่อยู่กลางภาพนี้เป็นทะเลสาป Pangong ซึ่งช่วงเวลานี้กำลังเป็นน้ำแข็งอยู่ ตอนนี้ผมเริ่มมีอากาศปวดหัว หายใจแล้วเหนื่อยมากขึ้นเพราะบริเวณนี้เป็นที่สูง

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/400 sec; f/1.4; ISO 100
ทะเลสาปปางกอง (Pangong lake)

เช้าวันใหม่ที่ทะเลสาปปางกอง ที่นี่อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 4,350 เมตร เพราะเหตุนี้จึงทำให้ผมหายใจแล้วรู้สึกเหนื่อยหอบ เดินนิดหน่อยก็เหนื่อยรวมทั้งมีอาการคลื่นไส้ปวดหัวเพราะอากาศเบาบางมาก ขนาดว่านอนยังต้องใช้เวลาสักพักถึงจะหลับเพราะความหนาวและการหายใจไม่ปกติ ในฤดูหนาวอาจจะเข้าถึงได้ยากเพราะสภาพอากาศและหิมะ แต่ช่วงปลายฤดูหนาวแบบนี้เราสามารถเห็นน้ำกลายเป็นน้ำแข็งซึ่งเป็นภาพที่งดงามมาก ภาพนี้อยู่ในมุมย้อนแสงนิดๆ แต่พยายามหลบไม่ถ่ายในมุมที่เจอพระอาทิตย์โดยตรงเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดแฟร์ในภาพ

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/320 sec; f/11; ISO 100
ทะเลสาปปางกอง (Pangong lake)

สภาพของน้ำในทะเลสาปที่กลายเป็นน้ำแข็ง จุดนี้ยังไม่หนามาก ตอนเหยียบลงไปบนก้อนหินเพื่อหามุมถ่ายภาพยังได้ยินเสียงลั่นเปรี๊ยะ มองลงไปใต้น้ำยังเห็นปลาตัวเล็กๆ ว่ายน้ำอย่างสบายใจ

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/400 sec; f/16; ISO 100
ทะเลสาปปางกอง (Pangong lake)

ลองถ่ายภาพย้อนแสงดูบ้าง ถึงแม้เลนส์จะมีการเคลือบผิวที่ดีในระดับหนึ่ง แต่ถ้าย้อนตรงๆ ก็อาจมี Flare ให้เห็นบ้าง แต่ไม่มาก เพราะฉะนั้นไม่ว่าเลนส์อะไรก็อย่าไปย้อนแสงโดยตรงดีกว่า ไม่แสบตาด้วย

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/200 sec; f/16; ISO 100
ทะเลสาปปางกอง (Pangong lake)

คราวนี้ลองถ่ายภาพให้เกิดแสงแฉกดูบ้าง เลนส์ SAMYANG AF35mm F1.4 FE ตัวนี้ มีไดอะแฟรมของม่านชัตเตอร์จำนวน 9 ใบ ปรับรูรับแสงแคบสุดได้ f16 ภาพนี้ปรับไว้สุดสเปคเลนส์เลย ก็ได้แฉกตามที่ปรากฏในภาพนี้

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/640 sec; f/11; ISO 100
ทะเลสาปปางกอง (Pangong lake)

ทะเลสาบปางกอง มาจากคำว่า Pangong Tso โดย Pangong เป็นภาษาธิเบต ส่วนคำว่า Tso คือภาษาจีน แปลว่าทะเลสาป มีพื้นที่ครอบคลุมสองประเทศคืออินเดีย 40% และธิเบต 60% เป็นทะเลสาปน้ำเค็มที่อยู่สูงที่สุดในโลก (ลักษณะเป็นความเค็มแบบน้ำเกลือซึ่งความเค็มยังไม่ถึงระดับความเค็มของน้ำทะเล)

ภาพส่วนใหญ่ผมจะปรับรูรับแสงแคบเพราะต้องการความชัดลึกมากๆ ส่วนความคมชัดให้พึ่งการออกแบบของเลนส์ ซึ่งเลนส์ตัวนี้ไม่ได้ถือว่าคมกริบแบบหาที่สุดไม่ได้ แต่ก็คมในระดับที่ยอมรับได้ดีสำหรับการใช้งานเมื่อเทียบกับราคาที่ไม่ได้สูงมากนัก

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/640 sec; f/11; ISO 100
ระหว่างทางใกล้ Pangong Lake

หลังจากเก็บสัมภาระ จัดการมื้อเช้าเรียบร้อยและและเก็บภาพทะเลสาปได้สักพักก็ออกเดินทางมุ่งหน้ากลับเมืองเลห์ ระหว่างทางก็ยังแวะหาวิวสวยๆ ถ่ายภาพไว้เป็นบันทึกความทรงจำ อยากที่เคยบอกไปว่าทัศนียภาพเปลี่ยนแปลงไปตามภูมิประเทศที่หลากหลาย ความสวยงามจึงมีให้เห็นตลอดเส้นทางที่รถเคลื่อนผ่านไป

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/1250 sec; f/11; ISO 160
ระหว่างการเดินทางขึ้น Chang la pass

วันนี้เราจะต้องเดินทางข้ามภูเขาที่สูงระดับ 5,360 เมตร นั้นคือ Chang la มีความสูงเป็นลำดับที่ 2 ของเส้นทางถนนที่สูงที่สุดในโลก บนนี้เต็มไปด้วยหิมะ แต่ช่วงสงกรานต์เป็นปลายฤดูหนาวแล้ว หิมะจึงไม่หนามาก ไม่งั้นเส้นทางนี้ก็จะเดินทางลำบากมากขึ้น ภาพนี้ถ่ายแนวนอน 2 ภาพแล้วมาต่อพาโนรามา เป็นช่วงที่กำลังไต่ระดับขึ้นเขา หูกำลังอื้อได้ที่เลย

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/640 sec; f/11; ISO 160
จุดพักรถบนChang la pass

แล้วเราก็ขึ้นมาถึงจุดที่มีป้ายบอกความสูงของ Chang la pass จากนั้นแวะกินมาม่าและกาแฟอุ่นๆ สำหรับมื้อเท่ียงกัน เจ้าตูบที่เลห์จะมีขนปุกปุยแบบนี้เพื่อป้องกันความหนาว ดูแล้วเหมือนมันไม่หนาวเลย แต่ผมตัวสั่นไปหมดละ เคยให้ขนมปังพวกมันกิน เค้ามันรู้ว่ามีของกินมันก็วิ่งเข้ามาหาเป็นสิบตัว แย่งอาหารหรือแม้แต่กล้วยสดๆ มันก็กิน อาจเพราะอาหารหายากมั้งมีอะไรมันก็ต้องกินเพื่อความอยู่รอด ส่วนอาคารด้านหลังนั้นคือห้องน้ำ ไม่มีโถอะไรเลยนะ มีแค่ช่องสี่เหลี่ยม อย่าไปนึกภาพเลยดีกว่า แต่อยากบอกว่าห้องน้ำอาจไม่ดี แต่วิวที่หน้าต่างราคาหลักล้านเลยล่ะ

เลนส์ SAMYANG AF 35mm F1.4 FE ตัวนี้มีราคาโฟกัสใกล้สุดที่ 0.30 เมตร (0.98 ฟุต) แต่ผมก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้เจ้าตูบมากเพราะมันกำลังหลับและก็ยังไม่คุ้นเคยกับมัน กลัวมันกัดเพราะผิดกลิ่น

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/1250 sec; f/11; ISO 160
Location : Chang la pass

อีกสักภาพก่อนจากลาความหนาว ได้เห็นหิมะสมอย่างที่ตั้งใจ ได้สัมผัสอีกครั้ง แม้มันจะไม่ได้หนาแน่น แต่ก็หนาวได้ใจจนแทบไม่อยากจะถ่ายภาพ ความหนาวยังเป็นอุปสรรคสำหรับตัวเอง แต่สิ่งหนึ่งที่ดึงดูดให้ชีวิตต้องเข้ามาอยู่ท่ามกลางความหนาวเย็นก็คือการถ่ายภาพ ถ้าไม่ใช่สิ่งนี้ยึดเหนี่ยวเอาไว้ คงได้นอนหลบหนาวอยู่ในบ้านและในรถทั้งวันแน่ๆ

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/125 sec; f/10; ISO 200
ทางขึ้นThiksay Gompa

สถานที่เกือบสุดท้ายของทริปนี้ ที่นี่อยู๋ห่างจากเมืองเลห์เพียง 17 กิโลเมตรเท่านั้น วันนี้พยากรณ์อากาศบอกไว้ว่าอาจจะมีฝนเล็กน้อยและมันก็เป็นจริง แต่โชคดีที่หยดลงมาแค่ไม่กี่แหมะเท่านั้นเอง แต่สิ่งที่ปรากฏในภาพนี้ก็คือพายุที่กำลังหอบฝุ่นเข้ามายังจุดที่กำลังถ่ายภาพอยู่ ตอนนั้นยังไม่ได้สนใจอะไรเพราะคิดว่ายังมีเวลาและโอกาสในการได้ภาพอยู่ แต่สักพักเดียวเท่านั้นแหละ มันก็หอบฝุ่นและลมจำนวนมากถาถมผ่านข้ามตัวผมไป ตอนนั้นเต็มไปด้วยฝุ่นจำนวนมาก ต้องหลับตาไว้ตลอด แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นข้อดีของเลนส์ SAMYANG AF35mm F1.4 FE ตัวนี้ก็คือ ภายนอกไม่มีปุ่มอะไรเลย นอกจากแหวนปรับซูมที่เป็นยาง ทำให้มั่นใจได้ว่าฝุ่นจะไม่เข้าเลนส์แน่นอนถ้าไม่ได้ใช้งานแบบผิดประเภทหรือจัดเก็บไม่ดี แต่ปัญหาของผมในตอนนี้ก็คือ ผมไม่ได้ใช้ฟิลเตอร์ 67 มม. ปิดหน้าเลนส์ไว้เพราะไม่ได้เตรียมมาจากบ้าน สุดท้ายต้องมานั่งทั้งปัดทั้งเป่าฝุ่นออกจากหน้าเลนส์นิดหน่อย

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/1000 sec; f/9; ISO 200
ถ่ายจาก Thiksay Gompa

ภาพวิวกว้างๆ จากบนวัด ถ้ากว้างกว่านี้ตัวบ้านคงจะยิ่งเล็กลงไปอีก ระยะ 35 มม.นี่แหละกำลังดีเลย เห็นวิวไม่แน่นจนเกินไป ปรับสีภาพให้ซีดลงอีกหน่อยเพื่อให้ได้อารมณ์ภาพ

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/80 sec; f/16; ISO 200
จากลานจอดรถด้านล่างมองขึ้นไป Thiksay Gompa

ตอนแรกที่จอดรถถ่ายภาพจุดนี้ไม่มีแสงเลยเพราะโดยเมฆดำบังหมด แต่พอพายุหอบทรายพัดถล่มเมืองไปหนึ่งรอบ ฟ้าก็เปิดให้เห็นแสงอุ่นๆ จึงลงมาถ่ายภาพที่จุดนี้อีกรอบ

SonyA7Rii + SAMYANG AF35mm F1.4 FE Speed 1/80 sec; f/16; ISO 200
Stakna Gompa

 

สถานที่นี้อยู่ริมถนน ก่อนจะไปถึง Thiksey Gompa สำหรับมุมนี้ระยะเทเล 70-200 มม.น่าจะเหมาะที่สุด เพราะระยะ 35 มม.มันกว้างเกินไปทำให้เก็บวัดได้นิดเดียวเท่านั้น ก็เลยถ่ายแบบเก็บบรรยากาศของเมฆฝนมาแทน

สำหรับ route การเดินทางของผมในทริปนี้
Day1 :  Bangkok > Delhi : นอนที่สนามบินหนึ่งคืนเพื่อรอต่อเครื่องไป Leh ตอนเช้า
Day2 :  DELHI > LEH > เข้าที่พักที่ Zeejeed Palace > ปรับสภาพร่างกาย โดยเที่ยว Leh market และ Shanti Stupa
Day3 :  ตื่นตีห้า เดินจากที่พักฝ่าลมหนาวขึ้น Shanti Stupa เก็บภาพระหว่างเดินทางไปถ่ายแสงเช้า > Sankar Gompa > Leh Market > Leh Palace > ถ่ายแสงเย็นวิวตัวเมือง Leh ช่วงพระอาทิตย์ตกดินที่ Namgyal Tsemo Gompa > กลับที่พัก รอถ่ายทางช้างเผือกที่ระเบียงห้องพักหลังตีหนึ่ง
Day4 : ตื่นตีสี่ครึ่ง ขนสัมภาระออกจาก Zeejeed Palace ตีห้าครึ่ง > Sangam point (จุดตัดของแม่น้ำ Indus และ Zanskar  ชมวิวแม่น้ำสองสี) > Moonland Lamayuru (หุบเขาที่พื้นผิวเหมือนดวงจันทร์) > Lamayuru Gompa > Leh market > นั่งรถไต่ระดับไปทาง Khardung La pass ที่ระดับความสูง 5,600 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล > Nubra Valley > เข้าที่พักที่ Hunder guest house
Day5 : ตื่นหกโมง กินอาหารเช้าที่ Hunder guest house และออกเดินทางแปดโมง > Hunder Sand dunes ที่ Nubra Valley > Diskit Gompa > Pangong Lake ทะเลสาปน้ำแข็งที่ระดับความสูง 4,230 เมตร > Guest house
Day6 : Guest house > Pangong Lake > นั่งรถไต่ระดับไปทาง Changla pass ที่ระดับความสูง 5,390 m. > Stakna > Thiksey Gompa > เข้า Leh city > กลับมาพักที่ Zeejeed Palace
Day7 : ตื่นตีสี่ รถมารับไปสนามบิน Leh > Delhi > Bangkok

เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับเลนส์  SAMYANG AF35mm F1.4 FE ดูภาพจุใจเลย เลนส์รูรับแสงกว้างราคาจับต้องได้ คุณภาพเพียงพอต่อการใช้งานได้หลากหลายไม่ว่าจะถ่ายวิว คน ทางช้างเผือก สถานที่แสงน้อย และยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา มีแล้วก็ขอให้ถ่ายภาพอย่างมีความสุขกันทุกคน ต้องขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านกันจนจบนะครับ  ถ้าผิดพลาดอย่างไรขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ^^

==========================

ทางเว็บไซต์ คาเมร่า เมคเกอร์ ขอนำบทความรีวิวสินค้ามาเผยแพร่เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการศึกษา
ขอขอบคุณเจ้าของกระทู้: pookiefoto
สามารถดูรีวิวต้นฉบับได้ที่: https://pantip.com/topic/37714467

==========================

สอบถามรายละเอียดสินค้า
ติดต่อ Camera Maker
Line ID : @cameramaker

สนใจ Samyang AF 35mm F1.4 Sony FE ของแท้ประกันศูนย์ Click ที่นี่ 

Camera Maker ตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย

Main Menu