การจัดไฟสำหรับมือใหม่ เพิ่งเริ่มหัดถ่าย
การจัดไฟสำหรับมือใหม่นั้น สิ่งที่สำคัญคือ พยายามใช้อุปกรณ์ให้น้อยที่สุดก่อน เพื่อความเข้าใจที่ง่ายกว่า หลังจากนั้นเมื่อรู้ถึงความต้องการของการใช้งานแล้ว ค่อยขยับขยายไปใช้อุปกรณ์เสริม หรือจำนวนไฟที่มากขึ้น เพื่อให้งานตอบโจทย์สิ่งที่ต้องการในการใช้งานจริงๆ
มาเริ่มกันที่การใช้ไฟดวงเดียวในการจัดแสง
ลำดับแรกเลยคือเรื่องมุมแสงที่ตกกระทบ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะจะเป็นตัวกำหนดรูปแบบของงานที่จะนำเสนอออกไป
หลักใหญ่ๆ ของเรื่องการวางตำแหน่งแสงนั้น จะมีอยู่ 3 อย่างคือ
1. แสงหน้า
2. แสงข้าง
3. แสงหลัง
การวางไฟทั้ง 3 นี้จะให้งานที่แตกต่างกันออกไป
แสงหน้า
เหมาะกับงานที่ต้องการนำเสนอให้ชัดเจน เห็นรายละเอียดมากกว่าแสงรูปแบบอื่นๆ เหมาะสำหรับการถ่ายผลิตภัณฑ์ ถ่ายเสื้อผ้า ถ่ายแฟชั่น
.
แสงข้าง
เป็นงานที่เน้นแสงกับเงา แต่จะให้ความสำคัญประมาณครึ่งๆ คือจะให้เห็นรายละเอียดในส่วนที่แสงตกกระทบครึ่งนึง ส่วนอีกครึ่งก็จะอยู่ในเงามืดไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดได้อย่างชัดเจน
.
แสงหลัง
เหมาะกับงานที่เน้นเรื่องเงามืดเป็นหลักแต่จะโชว์รายละเอียดบางส่วนที่เป็น Rim Light แทน เช่นภาพ Silhouette เป็นต้น
เปรียบเทียบแสงที่เข้าจากการวางตำแหน่งไฟทั้ง 3 แบบ
การทดสอบการจัดแสงกับการใช้งานจริง
ถ้ามีไฟดวงเดียว และต้องการแสงเคลียร์ ให้ยิงเข้าไปด้านหน้า แต่วางไฟเฉียงออกข้างนิดหน่อย เพื่อให้ตัวแบบมีส่วนที่โดนแสง และส่วนที่อยู่ในเงานิดๆ จะทำให้งานดูมีมิติมากขึ้น
.
ภาพตัวอย่างที่ได้จากการจัดไฟแสงเคลียร์ด้วยไฟ 1 ดวง
.
ถ้าต้องการงานที่แสงเคลียร์ ดูสะอาด ควรจะเลือก Backdrop เป็นสีขาวหรือสีโทนอ่อน ส่วนการจัดไฟอย่างง่ายที่สุดสำหรับไฟ 2 ดวงคือวางซ้ายขวา ทำมุมประมาณ 45 องศา ปรับกำลังไฟให้สว่างในระดับที่เหมาะสม อย่าให้มืดไปเพราะจะต้องดัน ISO เพิ่ม หรือไม่ให้ไฟแรงจนเกินไป เพราะนางแบบจะแสบตาและทำตาหยีโดยไม่รู้ตัว
.
ภาพตัวอย่างที่ได้จากการจัดไฟแสงเคลียร์ด้วยไฟ 2 ดวง
.
ส่วนการจัดแสงถ่ายแบบซิลลูเอทนั้น ง่ายมากๆ วางไฟไว้หลังตัวแบบ แล้วถ่ายสวนเข้าไปได้เลย
สำหรับรายละเอียดการจัดไฟที่แนะนำไปข้างต้น เป็นการจัดไฟสำหรับมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นการจัดไฟสำหรับใช้งานทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว จริงๆยังมีเทคนิคการจัดไฟที่ต้องลงรายละเอียดมากขึ้นกว่านี้
.